คุณชายโล่ -
ถ้าพูดถึง โล่ เพื่อนๆทุกคนคงนึกออก แต่เพื่อให้คนอื่นที่เข้ามาอ่านเว็บเข้าใจร่วมกัน ช่วยกันนึกภาพ ชายผิวคล้ำ รูปร่างสูงโปร่ง (อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ไม่ใช่แบบ dark tall and handsome แน่) แต่ทว่าออกจะตาตี่และยิ้มแสยะๆอยู่เสมอ และแขนขาที่แสนจะยาวก็ไม่ได้ช่วยให้เดินเร็วขึ้นมาเล้ย activity ของเธอออกไปทาง hypo เสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการพูดก็ออกไปทางยานคาง หรือจะเป็นการเล่นบาสก็ค่อยย่างสามขุมอย่างเยือกเย็น ไม่เคยได้สัมผัสลูกบาส (มันจะลงไปทำไมวะเนี่ย สงสัย เอาไว้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามงงเล่น) เกริ่นมาเสียยาวที่ต้องการเล่าคือสมัย extern อยู่วอร์ดmedที่ลำปาง extern โล่ถูกตามตอนหัวค่ำ พยาบาลโทรตาม " หมอค่ะๆ คนไข้ arrestค่ะ ช่วยมาดูที "คร้าบบบ ไปเดี๋ยวววนี้" (เพื่อให้ได้อรรถรส เวลาอ่านกรุณาทำเสียงยานคางเล็กน้อย) หลังจากวางหูโล่ก็เริ่มเดินออกจากห้องพัก ไปยังวดร์ด ย่างสามขุมแบบ slow motion เหมือนเดิมอย่างมั่นใจ (โปรดนึกภาพตาม) เข้าไปถึงวอร์ด พยาบาลกำลังชุลมุนรุม pump คนไข้เตียงแรกหน้าประตู แต่โล่ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาย่างต่อไป แม้พยาบาลจะพยายามตะโกนเรียกแล้ว "หมอเตียงนี้ ๆ " คาดว่าเสียงดังกล่าวคงจะเร็วเกินกว่าที่โสดประสาทของโล่จะ detect ได้ กว่าจะรู้ตัวก็เดินไปถึงเตียงสุดท้ายเสียแล้ว แต่ก็อีกนั่นแหละ กว่าโล่จะกลับตัวและย่างกลับมาถึงเตียงแรก และช่วยCPR มันก็สายซะแล้ว ลุงแกก็ไปสวรรค์แล้ว (โปรดสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ลุงแกด้วย) ที่เขียนมาเนี่ยไม่ได้จะว่าโล่ว่า inert หรอกนะ อย่าเข้าใจผิด แค่เขียนมาด้วยความที่เพื่อนระลึกถึงท่าทางแบบไม่เหมือนใครของแกเท่านั้นเอง
ที่สุดของที่สุด -
คงจะพอจำกันได้ว่างาน Bye grand ทุกครั้ง จะมีการ vote ที่สุดของ extern ชั้นปีเราก็เช่นกัน
เริ่มจากรอบอุ่นเครื่อง ตอนปี 2 จัดงานปีใหม่เห็นพี่ๆ extern vote กันต้องขอมีบ้าง
โดยมีณเรศ (ที่ตอนหลังก็ได้ตำแหน่งที่แสนจะเหมาะสมเช่นกัน ) เป็นตัวตั้งตัวตี ตอนนั้น
vote กันหลายรางวัล แต่ที่พอจะจำได้ก็ได้แก่
1 ตายไปก็ไม่แปลก : รางวัลนี้เห็นๆกันอยู่มีตัวเต็งที่ตีคู่กันมาอย่างสูสี
คือ หมีกับดื้อ และแล้วผลก็ออกมาว่า ดื้อได้คะแนนชนะหมีไปอย่างขาดลอย ได้รับรางวัลเป็นยาเบื่อหนู
1 ซอง ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้กินหมดหรือยัง เพราะเรายังคงเห็นดื้อปรากฏกายอยู่เรื่อยแถวคณะ
(อย่าจริงจังนะเพื่อนๆล้อเล่น)
2 ขี้หลีที่สุด ( Kereeman) : ตอนนั้นผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ก็มี
โจ้ ลักษณ์ ฯลฯ แต่ที่คว้ารางวัลไป ก็คืออุ้ย รางวัลเป็นอะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้แล้ว
(ใครจำได้ก็บอกด้วย) 6 ปีผ่านมาไวเหมือนโกหก ตอนนี้คนแรกกำลังจะแต่งงานแล้ว ส่วนอีก
2 คนกำลังจะตามไปติดๆ
3 ยาวที่สุด ซึ่งรางวัลนี้ตั้งไว้ออกจะกำกวม เพราะไม่ได้บอกไว้ว่าอะไรยาว
ทำให้พวกเรามีความเห็นที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น เมขายาว โล่ตัวยาว เก๋(สุพาพรรณวดี)
ชื่อยาว เพชรขนจั้กแร้ยาว แต่สุดท้ายจูนก็คว้าไป ไม่รู้ว่าอะไรของจูนยาว อันนี้ก็ต้องไปถามเจ้าตัวเอง
พอถึงตอน
extern รางวัลที่ vote ดูจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย ก็ได้แก่
1 prince of night ได้แก่ เก่งกิจที่มาในชุดทักซิโด้สุดหรูที่ใส่แล้วดูเหมือนเด็กเสริฟมากกว่า
2 princess of night ก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากกีตาร์ซึ่งมาในชุดเกาะอกเปิดไหล่สีดำ
ดูแล้วไม่ธรรมดาจริงๆ
3 น่าแต่งงานด้วยมากที่สุด ฝ่ายชายยุทธศาสตร์กินขาด (แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าคน
vote ให้ไม่ใช่ผู้หญิงในชั้นปีแน่นอน ) คงเป็นเพราะยุทธซ้อมแต่งอุ่นเครื่องมาหลายรอบแล้ว
(งานจริง พค.44 นี้อย่าพลาด) ส่วนฝ่ายหญิงปาเข้าไปถึง 5 คน คือ เบียร์ หว้า เป็ดอ้วน
พี่ขวัญ และ กีตาร์ แต่จนถึงตอนนี้ ได้แต่งไปเพียงคนเดียวคือเบียร์ เอ้าเพื่อนๆผู้ชายที่ช่วย
vote ให้ 4 คนที่เหลือช่วยกรุณาทำตามที่ vote ด้วย
4 และสุดท้ายสลิดที่สุดก็เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ณเรศ ที่เพื่อนๆเทคะแนนให้ไปแบบไม่มีคู่ต่อสู้
เนื่องด้วยท่าทีอันแสนจะน่าหมั่นไส้ของเธอ
# ต่อไปถ้ามีจัดงานเลี้ยงรุ่น น่าจะจัด vote กันอีกนะ สนุกดี แต่คราวนี้รางวัลก็คงต้องเป็นพวก เมียเยอะสุด ลูกดกสุด เหลือผมน้อยที่สุด อะไรทำนองนี้ แต่ถ้ามีรางวัลขายออกเป็นคนสุดท้าย หรือ ท้ายที่สุดก็ขายไม่ออกก็ดีสิจะได้มีหวังได้รางวัลกับเขาบ้าง
ร.ฟ.ร. -
ช่วงนั้นพี่เจ ออกเทปใหม่ ย่อมาจากรถไฟรัก ชั้นปีเราก็มีเช่นกัน จะก่อตัวทุกครั้งที่มีการสอบ Lab กริ้ง ซึ่งจะมีการตั้ง specimen ไม่ว่าจะเป็น gross หรือว่า microscopic ซึ่งต้องดูจากกล้องจุลทรรศน์ จริงๆแล้วการสอบแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยปี 1 แต่ รฟร. เพิ่งจะมีตอนปี 3 ตอนสอบ patho กับ parasite เนื่องจากสถานที่สอบเอื้ออำนวย ก่อนอื่นต้องอธิบายความหมายของ รฟร. คร่าวๆ ก่อนว่า หมายถึงการต่อแถวกันเพื่อลอกคำตอบของคนหัวแถว ซึ่งเพื่อนๆ ไว้วางใจว่าคำตอบของมันถูกแน่นอน หรืออย่างน้อยๆ ก็น่าจะดีกว่าคำตอบของตูหล่ะว้า และที่ว่าสถานที่เอื้ออำนวยก็เพราะห้องที่ใช้สอบใหญ่มากกกก แบ่งออกเป็นล็อกๆ โดยมีแผ่นไม้กั้น เรียกง่ายๆว่า "คอก " จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น อาจารย์ที่คุมก็มีอยู่น้อยนิดเป็นอันว่าไม่มีทางเห็นพฤติกรรมของคนในคอกเป็นแน่ ดังนั้นพวกเราจึงฉวยโอกาสนี้มอบหมายให้คนที่คิดว่าน่าเชื่อถือที่สุดเป็นหัวแถว
เขียนคำตอบด้วยดินสอไว้บนโต๊ะข้างกล้อง ให้คนต่อๆไปได้พึ่งพา และหวังว่าคนสุดท้ายจะช่วยลบให้ อ่านถึงตรงนี้ก็อย่าคิดว่าพวกเราตั้งจะทุจริต เป็นเพียงแค่หนทางการเอาตัวรอดเท่านั้นเอง เนื่องจากเป็นวิชาที่ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะ patho ที่เวลาเรียนก็ไม่ค่อยเข้าใจเนื่องจากพวกเราเป็นสมาธิสั้นกันเสียส่วนใหญ่ หลับบ้างไม่หลับบ้างตามสมควร ไมค์ที่อาจารย์ใช้ก็ไม่ค่อยดัง แถมบางท่านยังเอาไปเหน็บไว้ที่ซอกคออีกแหนะ บางท่านก็ค่อนข้างจะอาวุโสพูดดังไม่ได้มีปัญหากับฟันปลอม (ขออภัยนะค่ะหนูไม่ได้มีเจตนาจะเม้าอาจารย์ เพียงแต่วิเคราะห์ไปตามเหตุที่พอจะเป็นไปได้) นอกจากนั้น pointer ที่ใช้ถ่านคงจะใกล้หมด เวลาชี้ slide แทบจะมองไม่เห็น และเวลาชี้รวม เช่น glomerulussss (หมุนข้อมือจนรอบ กวาดเกือบหมด slide ตกลงอันไหนฟะ หันไปถามเพื่อนข้างๆ หันกลับมาเปลี่ยน slide เสียแล้ว) พอหมดชั่วโมง lecture ก็ต้องรีบวิ่งชิงกันไปดูกล้อง demon ซึ่งมีอยู่น้อยนิด ดูอย่างรวดเร็วไม่ต้องจด ไม่ต้องวาด เพราะเดี๋ยวพวกว่าที่หัวรถจักรทั้งหลายจะจัดการเอง ส่วน lab ที่ให้ดูกันเองก็พวกเดิมอีกนั่นแหละที่นั่งดูที่เหลือกลับหอพักผ่อนตามอัธยาศัย
พอถึงวันสอบกรรมก็ตามสนอง
ก่อนสอบ 1วันก็หอบผ้าหอบผ่อนมานอนตามหอ กินข้าวใต้หอ 2 หญิงของหม่อมลูกปลาตาโปนเจ้าเก่า
ซื้อลูกชิ้นใต้หอ choc ไว้เป็นสะเบียง ซุ่มตามห้องของหัวรถจักรดู lab ที่ราวกับว่าจะไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
ใช้short memory กับเนื้อที่ในสมองที่พอจะมีอยู่จำเข้าไปให้หมด แต่ก็นั่นแหละความสามารถของคนเราก็มีอยู่จำกัด
ก็เลยต้องพึ่ง ไอ้ รฟร. ที่ว่านี่แหละ เวลาที่อยู่ในห้องเตรียมตัวสอบ จะอ่านหนังสือไอ้สมาธิที่เดิมสั้นอยู่แล้วก็สั้นเข้าไปใหญ่
แถมยังมีนังสรรค์ นังพี่โอ้ หรือนังเอกีเตอร์อย่างงี้คอย psycho สร้างความกดดันให้อีก
ดังนั้นสิ่งที่ทำได้มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือต่อแถว รฟร. หัวรถจักรคนไหน hot
hot rating แรงหน่อยถึงขั้นต้องแจกบัตรคิวกันจ้าละหวั่น ตบตีแย่งชิงกันอยู่หัวขบวนเพราะคิดว่าคำตอบจะบิดเบือนน้อยที่สุด
พออาจารย์ปล่อยให้เข้าห้องสอบก็อย่างกับปล่อยตัววิ่งผลัด 4 x 100 วิ่งกันสุดชีวิตเพื่อรักษาตำแหน่งที่อุตส่าห์ตบตีแย่งชิงมา
พอเริ่มข้อแรกก็ตอบเอง"มั่วๆไปก่อนวะ ข้อต่อไปเถอะเฟ้ยเสร็จชั้นแน่นอน "พอเสียกริ้งงงงดังขึ้น
ทุกคนก็กุลีกุจอย้ายข้ออย่างรวดเร็ว พอถึงข้อใหม่สิ่งแรกที่ทำก็หาใช่การดูกล้องไม่
แต่กลับเป็นมองหาคำตอบที่เขียนไว้บนโต๊ะเอาตรงที่แสงตกกระทบพอเหมาะ ไม่มีใครสนใจกล้องและ
specimenที่วางอยู่ตรงหน้า แต่อย่าคิดนะว่าพวกเราจะได้คำตอบกันมาอย่างง่ายดาย เพราะนอกจากจะหายากเนื่องจากห้องค่อนข้างมืด
ตำแหน่งที่เขียนต่างๆกันไปแล้ว ยังมีหลายคำตอบเขียนอยู่ เนื่องจากมีหัวจักรหลายขบวนมาจากหลายสำนัก
ซึ่งก็มีความเห็นแตกต่างกันไป แถมไอ้คำตอบที่เขียนไว้ตั้งแต่การสอบครั้งก่อนๆก็ไม่เคยลบ
ทำให้จำเป็นต้องเลือกคำตอบที่ดูจะเข้าท่าที่สุดเขียนลงไป เป็นแบบนี้มาตลอดทุกครั้งสอบ
ก็ไม่รู้ว่าเวลาอาจารย์ตรวจข้อสอบคงจะขำพวกเรามากทีเดียว เพราะคงไม่ทุกคนหรอกที่จะเลือกเอาคำตอบที่ถูกต้องมาตอบ
คงมีคำตอบของครั้งก่อน หรือที่แย่กว่านั้นคำตอบของอีกวิชาหนึ่งที่สอบไปแล้วก่อนหน้านั้นปะปนไปบ้าง
บางครั้งก็แปลกใจว่าอาจารย์จะไม่เคยรู้เลยหรือนี่ แต่คิดดูดีๆ อาจารย์คงเห็นว่านี่ขนาดลอกกันยังร่อแร่ขนาดนี้ปล่อยๆมันไปเถอะ
แต่ในที่สุดพวกเราก็สามารถผ่านมาได้จบเป็นหมอกันทุกคน จึงต้องขอกราบขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่สอนเรามา ขอบคุณหัวรถจักรทุกคนที่เอื้อเฟื้อ ขอบคุณแสงที่ช่วยส่องตกกระทบตามตำแหน่งต่างๆบนพื้นโต๊ะถูกบ้างผิดบ้าง และสุดท้ายขอบคุณพวกเราทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจกันโดยเฉพาะเวลาคับขันจะร่วมใจกันเป็นพิเศษ
เขียนส่งมาเซิร์ฟ 3 เรื่องก่อน ไม่รู้ว่าพอจะใช้ได้หรือเปล่า ถ้าล่วงเกินใครไปก็ขออภัยไว้ด้วย อยากให้เพื่อนเข้ามาอ่านกันหลายๆคน